ฟอนต์หมายถึง
หมายถึง ตัวอักษรที่ต่างกันทั้งแบบและขนาด มีไว้ให้เลือกมากมายเพื่อให้เหมาะกับงานพิมพ์ประเภทต่าง ๆ เช่น ป้ายโฆษณา การพาดหัวข่าว งานพิมพ์เอกสารต่าง ๆ แบบอักษรแต่ละแบบจะมีชื่อ เพื่อให้สะดวกในการเรียกใช้
ประวัติtypography
ตัวอักษร เรียกว่า character และถ้าหากตัวอักษรที่มีลักษณะเหมือนกันเป็นชุดเดียวกัน เรียกว่า font
ที่เรารู้จักกันดี เช่น angsana UPC,arial, lily, cordia new, tahoma, เป็นต้น ประวัติความเป็นมาของสิ่งพิมพ์เริ่มขึ้นจากการประดิษฐ์แท่นพิมพ์โลหะ โดย Johannes Gutenberg ในปีค.ศ. 1440 ซึ่งทำให้เกิดระบบการพิมพ์เป็นจำนวนมาก การออกแบบตัวอักษรจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมา
ประวัติการพิมพ์ในประเทศไทย
ระบบการพิมพ์ของไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณและได้พัฒนามาเรื่อยๆด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัยในทุกๆวันนี้เป็นเรื่องง่ายดายที่จะจัดทำพิมพ์สื่อต่างๆ
เริ่มต้นที่
- พ.ศ.2205 สมัยกรุงศรีอยุธยา หลุยส์ ลาโน ( Louis Laneau) บาทหลวงสังฆราช ของคณะมิชชันนารีคาทอลิกฝรั่งเศสที่เข้ามาในประเทศไทยรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้แปล แต่งและพิมพ์หนังสือคำสอนทางคริสต์ศาสนาเป็นภาษาไทยรวม 26 เล่ม หนังสือไวยากรณ์ไทยและบาลี 1 เล่มและพจนานุกรมไทยอีก 1 เล่ม นอกจากนี้ยังสร้างศาลาเรียนขึ้นในที่พระราชทานที่ตำบล เกาะมหาพราหมณ์เหนือกรุงเก่าขึ้นไป และได้ตั้งโรงพิมพ์ขึ้นในโรงเรียนนี้
- สมัยกรุงธนบุรี บาทหลวงคาทอลิก ชื่อ คาร์โบล ได้กลับเข้ามาสอนศาสนาและจัดตั้งโรงพิมพ์ พิมพ์หนังสือที่วัดซันตาครูส ตำบลกุฏิจีน จังหวัดธนบุรี หนังสือฉบับนั้นลงปีที่พิมพ์ว่าเป็นปี ค.ศ.1796 (พ.ศ.2339)
- พ.ศ.2356 มีการหล่อตัวพิมพ์เป็นภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก โดยนางจัดสัน ( Nancy Judson) มิชชันนารีอเมริกัน ต่อมาแม่พิมพ์ภาษาไทยชุดนี้ถูกนำไปเมืองกัลกัตตา
- พ.ศ.2384 หมอบรัดเลย์ (Dr.Dan Beach Bradley) ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับ การยกย่องว่า “บิดาแห่งการพิมพ์ในประเทศไทย” ได้ประดิษฐ์ตัวพิมพ์ไทยขึ้นใหม่ให้น่าอ่านกว่าเดิม
- วันที่ 3 มิถุนายน 2379 บาทหลวงชาร์ล โรบินสัน ( Reverand Robinson) มิชชันนารีอเมริกัน ได้พิมพ์หนังสือ ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทยจากแท่นพิมพ์ที่ทำด้วยไม้และแม่พิมพ์หิน หนังสือมี 8 หน้า เนื้อหาเกี่ยวกับบัญญัติ 10 ประการ (Ten Commandment)
- พ.ศ.2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้จ้างโรงพิมพ์มิชชันนารีอเมริกัน พิมพ์หมายประกาศห้ามสูบฝิ่นนับเป็นเอกสารทางราชการชิ้นแรกที่จัดพิมพ์ขึ้น
- วันที่ 4 กรกฎาคม 2387 มีการออกหนังสือพิมพ์ฉบับแรกในเมืองไทย ชื่อ บางกอกรีคอร์เดอร์ (Bangkok Recorder) โดยขณะนั้นเรียกว่า จดหมายเหตุอย่างสั้น ออกเดือนละ 2 ฉบับ
- วันที่ 15 มิถุนายน 2404 หมอบรัดเลย์ได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือนิราศลอนดอนของหม่อมราโชทัย และจัดพิมพ์ขายขึ้นเป็นครั้งแรกนับเป็นการเริ่มต้นของการซื้อขายลิขสิทธิ์และการพิมพ์ หนังสือเล่มออกจำหน่าย
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นคนไทยพระองค์แรกที่เริ่มต้นกิจการพิมพ์ของไทย เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฏและผนวชที่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงดำริสั่งเครื่องพิมพ์มาตั้งที่ วัดบวรนิเวศวิหารและแกะตัวพิมพ์เป็นอักษรอริยกะ ใช้พิมพ์หนังสือสอนศาสนา เช่น พระปาฏิโมกข์ หนังสือสวดมนต์ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2394 หลังจากการขึ้นครองราชย์ทรงตั้งโรงพิมพ์หลวง ในพระบรมมหาราชวังขนานนามว่า โรงพิมพ์อักษรพิมพการ และได้พิมพ์ผลงานชิ้นแรกออกมาชื่อ หนังสือราชกิจจานุเบกษา เมื่อ พ.ศ.2401
- พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือไว้หลายเล่ม และช่างพิมพ์ไทยพยายามแก้ปัญหาแม่พิมพ์ โดยแกะแม่พิมพ์ไม้ขี้นใช้เอง
- พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือประเภทต่าง ๆ มากมาย กิจการพิมพ์ในยุคนี้เจริญก้าวหน้า มีความประณีต งดงามมากยิ่งขึ้นและโรงพิมพ์ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามลำดับ
- การศึกษาทางการพิมพ์เริ่มขึ้นประมาณ พ.ศ.2476 ในระดับอาชีวศึกษาชั้นต้นชั้นปลายที่โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช
- พ.ศ.2496 ได้มีการสอนวิชาการพิมพ์ที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ ในแผนกวิชาช่างพิมพ์ทำการสอน ระดับอนุปริญญา
ส่วนประกอบของตัวอักษร (font anatomy)
ปัจจุบันมีองค์กรที่เรียกว่า the international standard organization (ISO) ตั้งที่ Geneva ,Switzerland มีหน้าที่ กำหนดมาตรฐานของตัวอักษรที่ใช้ในงานสิ่งพิมพ์ ทั้งขนาด ลักษณะของตัวอักษรที่สามารถอ่านได้ง่าย ความสูงรายละเอียดต่างๆ ตัวอักษรภายใต้ ISO เน้นประโยชน์ใช้สอยสามารถอ่านง่ายและใช้งานได้หลากหลาย ตัวอักษรยังมีส่วนประกอบต่างมีชื่อเรียกเฉพาะให้เป็นที่เข้าใจกัน ในกลุ่มนักออกแบบที่เรียกกันว่า "anatomy"
* หากคุณต้องการที่จะออกแบบตัวอักษร คุณต้องทำความเข้าใจส่วนประกอบต่างๆของตัวอักษรให้เข้าใจเสียก่อน
การออกแบบ font
ต้องคำนึงถึงระยะต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งาน ซึ่งจะมีผลต่อการอ่าน และลักษณะเฉพาะของตัวอักษรนั้น ระยะที่ใช้ในการออกแบบ font มีหน่วยการวัดเป็น dpi (dot per inch) หมายถึงให้แบ่งย่อยระยะ 1 นิ้วออกเป็นช่องเล็กๆ ซึ่งถูกกำหนดว่า 72 dpi = 1 นิ้ว ซึ่งพัฒนาเป็นขนาดในการแสดงผลบน computer display และ web page ในเวลาต่อมา ลักษณะการแบ่งระยะออกเป็นช่องย่อยๆจำนวน 72 ช่องต่อระยะ 1 นิ้ว
***นอกจากนี้ตัวอักษรยังมีระยะมาตรฐานต่างๆที่ต้องคำนึงและทำความเข้าใจก่อนการออกแบบ มี4 ระยะ ได้แก่ x- height, capline,topline, base line และ beardline